เรียกคืนรอยยิ้มสดใส น่าหลงใหล ด้วยการศัลยกรรมลักยิ้ม

     ลักยิ้ม หรือรอยบุ๋มเล็กๆ บริเวณข้างแก้ม ที่จะโชว์ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ คนที่มีลักยิ้มมักจะเป็นคนที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู มีใบหน้าหวาน อ่อนโยน ถือเป็นเสน่ห์น่ารักๆ ที่ใครหลายคนชื่นชอบ แต่เพราะลักยิ้มถือเป็นลักษณะพิเศษที่ไม่ได้มีกันทุกคน ดังนั้นการทำศัลยกรรมเสริมลักยิ้มจึงเป็นตัวช่วยที่ได้รับความนิยม

     ศัลยกรรมตกแต่งลักยิ้ม เป็นศัลยกรรมตกแต่งบนใบหน้าเพื่อทำให้แก้มมีรอยบุ๋มเวลายิ้ม เป็นการศัลยกรรมที่ทำง่ายสุดเลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ใช้เวลาทำน้อย เพียง 15-20 นาที และปลอดภัยเพราะเป็นการเย็บที่แก้มแค่ 1-2 จุดเท่านั้นเอง

 
 

ศัลยกรรมตกแต่งลักยิ้มมีกี่แบบ

  1. ลักยิ้มแบบขีด เป็นลักยิ้มที่นิยมทำกันมากในสมัยก่อน มีลักษณะขีดเป็นทางยาวขนานกับแก้ม มีความยาวราว ๆ 3-5 มิลลิเมตร ดาราหลายคนนิยมทำกัน ซึ่งทำแล้วมีเสน่ห์สวยหล่อน่ารักกันทุกคน
  2. ลักยิ้มแบบจุด ลักยิ้มแบบจุดจะได้รับความสนใจในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเพียงการทำเป็นจุดบุ๋มลงไปตรงกลางแก้ม ดูไม่มากไม่น้อยเกินไป ขนาดกำลังพอดี

การเตรียมตัวก่อนทำ ศัลยกรรมตกแต่งลักยิ้ม

  1. ทำความสะอาดใบหน้าก่อนการผ่าตัด
  2. ทานอาหารให้พออิ่ม เพราะหลังผ่าตัดมักทานอาหารได้น้อย
  3. งดยาต้านการอักเสบ (NSAID) เช่นแอสไพริน อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
  4. ควรลาหยุดงานประมาณ 1 - 2 วัน
  5. เตรียมกำหนดตำแหน่งที่จะทำลักยิ้มบริเวณแก้ม ก่อนมาปรึกษาแพทย์

 
 

ขั้นตอนการศัลยกรรมตกแต่งลักยิ้ม

  1. สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์และทำศัลยกรรมได้ในวันเดียวกันเลย
  2. เริ่มต้นแพทย์จะทำการกะตำแหน่งและมาร์คไว้เป็นสัญลักษณ์
  3. เมื่อทำการมาร์คแล้ว แพทย์จะทำความสำอาดแผลด้วยเบตาดีนเพื่อฆ่าเชื้อ
  4. แพทย์จะฉีดยาชาภายในและภายนอกช่องปาก บริเวณที่กำหนดไว้
  5. แพทย์จะให้อ้าปากเพื่อทำการตัดกล้ามเนื้อบางส่วนจากภายในกระพุ้งแก้ม แล้วเย็บกล้ามเนื้อที่เหลือเข้ากับผิวหนัง เย็บปิดแผล ทำให้เกิดรอยบุ๋มได้ตามที่ต้องการ
  6. หลังจากผ่าตัดเสร็จใหม่ ๆ แก้มจะบุ๋มอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะยิ้มหรือไม่ โดยจะบุ๋มอยู่ประมาณ 1 – 2 เดือน เพื่อให้กล้ามเนื้อและผิวหนังได้ใช้เวลาในการสมานกัน

การดูแลหลังจากทำศัลยกรรมลักยิ้ม

  1. ในช่วง 1-7 วันแรก พยายามประคบเย็นให้บ่อยเพื่อลดการกระจายตัวของเส้นเลือดฝอยและลดอาการบวม
  2. หลังจาก 1 สัปดาห์จึงค่อยเริ่มประคบร้อนหรือประคบอุ่นเพื่อทำให้เลือดได้กลับมากระจายตัวตามปกติ
  3. ทานอาหารอ่อน ลดอาหารรสจัด งดของหมักของดองทุกชิด รวมทั้งอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก ๆ
  4. บ้วนปากบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังอาหาร เพื่อลดการเกิดแบคทีเรียและอาหารตกค้าง สาเหตุของการติดเชื้อที่แผล
  5. ลดหรือเลี่ยงการใช้โทรศัพท์สื่อสาร งดการนวดหน้า ยิ้ม หรือขยับแก้ม
  6. ควรเลี่ยงการดูหนังทั้งดราม่าและหนังตลกทุกชนิด เพื่อลดการใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าซึ่งอาจทำให้ไหมฉีกขาดได้
  7. ทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด

 

 

MORE SERVICE

บริการอื่นๆ